คำถามที่พบบ่อย
แหล่งรวมคำถามเกี่ยวกับโปรแกรมชะลอวัยของ TSP!
คำถามทั่วไป
Anti-Aging เป็นศาสตร์ที่ช่วยชะลอวัยและความเสื่อมของร่างกายโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการเฟ้นหาความเสี่ยงที่จะก่อโรคในอนาคต เพื่อที่จะสามารถวางแผนดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูที่ต้นเหตุให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ดูอ่อนกว่าวัย และมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่มักมีอาการเหล่านี้
- ไม่สดชื่น รู้สึกอ่อนเพลียง่าย
- น้ำหนักตัวเพิ่ม
- เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- นอนไม่หลับ
- ป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันไม่ดี
- ปวดเมื่อย
- สมาธิไม่ดี ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
- ผิวเสื่อมโทรม มีริ้วรอย จุดด่างดำ
- มีโรคประจำตัว โรคเรื้อรัง
ที่ TSP Anti-Aging Center เรามีทีมแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและเจ้าหน้าที่เฉพาะทางคอยให้คำแนะนำและปรึกษาแนวทางการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม หลังจากตรวจสุขภาพและวิเคราะห์ร่างกายอย่างละเอียด แพทย์ผู้เชียวชาญของเราจะช่วยออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคลเพื่อให้คุณมีสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอกและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การดูแลและฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกายรวมถึงการเติมเต็มในส่วนที่ร่างกายขาด เป็นแนวทางรักษาในศาสตร์ของ Anti-Aging ฉะนั้นถ้าคนไข้เข้ารับการรักษาและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รับรองได้ว่าจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่ดีเหล่านี้จากร่างกายของเรา (**ขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาของแต่ละบุคคล)
- รู้สึกสดชื่น ไม่อ่อนเพลียง่ายอีกต่อไป
- น้ำหนักลดอย่างปลอดภัย
- สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น
- นอนหลับดีขึ้น ลึกขึ้น
- ไม่เจ็บป่วยง่าย แข็งแรงขึ้น
- ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น
- อาการปวดเมื่อยลดลง
- สมาธิและความจำดีขึ้น
- กระฉับกระเฉง แลดูอ่อนกว่าวัย
ทั้งนี้ผลการรักษาจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อคนไข้ดูแลสุขภาพด้านอื่นๆควบคู่ไปด้วย เช่นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การหลีกเลี่ยงความเครียด รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่นการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ
ควรต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอ หากมีอาการเจ็บป่วย เช่น ไม่สบาย เป็นไข้ ท้องเสีย แนะนำให้เลื่อนกระบวนการตรวจ เพราะจะทำให้ผลจะคลาดเคลื่อน รวมทั้งไม่ต้องงดน้ำและอาหารก่อนเข้ารับการตรวจ เนื่องจากโปรแกรมการตรวจสุขภาพ (Health Checkup Program) ของ TSP Anti-Aging Center ไม่ได้ตรวจระดับน้ำตาลหรือไขมันในเลือด (โคเลสเตอรอล) ดูข้อมูลเพิ่มเติม
สามารถลงทะเบียนเพื่อจองคิวตรวจ ขอคำปรึกษา หรือรับสิทธิ์โปรโมชั่นจากช่องทางดังต่อไปนี้
- กรอกแบบฟอร์มหน้า Homepage และรอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ของเรา
- เพิ่มเพื่อนทาง LINE หรือ Facebook Messenger
เนื่องจากสาขาของเรามีผู้เข้าใช้บริการเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน จึงมีความเป็นไปได้สูงมากที่คุณจะไม่ได้รับการบริการหาก walk-in เข้าไปที่สาขาโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า
ฉะนั้นเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการรับบริการ แนะนำให้เช็ควันและเวลาที่ต้องการนัดหมายผ่านช่องทางออนไลน์
นอกจากนี้โปรโมชันจากช่องทางออนไลน์ของ TSP ไม่สามารถซื้อที่สาขาโดยตรงได้ โดยลูกค้าสามารถรับสิทธิ์และชำระเงินมัดจำผ่านช่องทางออนไลน์ดังต่อไปนี้เท่านั้น LINE OA / Facebook Messenger
- ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพตรัยญา โรงพยาบาลปิยะเวท พระราม 9
- โรงพยาบาลพริ๊นซ์ สุวรรณภูมิ
- โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล แจ้งวัฒนะ
- โรงพยาบาลบีบีเอช สุขุมวิท 39
โปรแกรม ED Therapy
การที่อวัยวะเพศจะแข็งตัวและทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ต้องอาศัยการทำงานของทั้งระบบประสาท ระบบหลอดเลือด ความสมดุลของฮอร์โมนเพศ รวมถึงกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณอวัยวะเพศ
ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือ ED: Erectile Dysfunction คือภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้เพียงพอสำหรับกิจกรรมทางเพศ
การรักษาด้วย BTL Shockwave ใช้เวลาในการรักษาเพียง 8-12 นาที/ครั้งเท่านั้น ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกเหมือนมีแรงกระแทกเบาๆ บริเวณอวัยวะเพศขณะรักษา โดยอาจจะมีอาการระบมเล็กน้อยหลังการรักษา แพทย์จะให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ โดยให้งดกิจกรรมทางเพศ 1-2 วัน
ไม่เจ็บ ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง สามารถทำกิจกรรมทั่วไปได้ตามปกติ
*สำหรับคนไข้ใหม่จะใช้เวลาประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง (รวมตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์)
ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง เบาหวาน ภาวะหลอดเลือดและหัวใจ มักจะมีปัญหาทางเพศมากกว่าปกติ เพราะเส้นประสาทและเส้นเลือดฝอยได้รับความเสียหาย ทำให้เลือดไหลเวียนไปที่อวัยวะเพศได้น้อยลง
โรคอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกิน นอกจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายแล้ว ยังส่งผลต่อฮอร์โมนเพศชายซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเพศหญิงในเซลล์ไขมัน ทำให้ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล เกิดปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้
ที่ TSP Anti-Aging Center เรามีทีมแพทย์ที่มากประสบการณ์ด้านการรักษา ED คอยให้คำปรึกษา โดยเน้นการรักษาทีต้นเหตุเพื่อให้อวัยวะเพศสามารถแข็งตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรักษาได้ตั้งแต่ผู้ที่เริ่มมีปัญหาเล็กน้อย ไม่มีโรคประจำตัว ไปจนถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ
จากสถิติของผู้เข้ารับการรักษาทั่วไปพบว่าความแข็งตัวของอวัยวะเพศดีขึ้นหลังการรักษาครั้งที่ 3-4 ด้วย BTL Shockwave เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนการรักษา
ในกรณ๊ที่มีปัญหาสุขภาพด้านอืนร่วมด้วย หรือต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาจจะต้องร่วมกับการรักษาโดยวิธีอื่น
**ระยะเวลาและวิธีการรักษาขึ้นอยู่หลายปัจจัย เช่น อายุ โรคประจำตัว พฤติกรรมการใช้ชีวิต ฯลฯ
ค่าใช้จ่ายในการรักษาขึ้นอยู่กับสุขภาพและปัญหาของแต่ละบุคคล รวมถึงการวินิจฉัยของแพทย์
**สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง LINE OA: @tsp.antiaging หรือโทร 098 520 9667
1. Shockwave Therapy คือ การรักษาคลื่นเสียงความเข้มต่ำแบบ non-invasive จะไปกระตุ้นและส่งเสริมการสร้างหลอดเลือดใหม่และซ่อมแซมหลอดเลือดที่เสียไป
2. Supplement หรืออาหารเสริม มีทั้งสูตรสำหรับบุคคลทั่วไปที่มีปัญหาเล็กน้อย และสูตรเฉพาะบุคคลที่มีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ความดันสูง เบาหวาน ภาวะหลอดเลือดและหัวใจ หรือผู้ที่มีภาวะฮอร์โมนเพศไม่สมดุล
3. INDIBA Deep Care ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดทั้งระดับผิวเผินและระดับลึก รวมทั้งช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณองคชาติ ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งจะช่วยลดความดันโลหิตส่งผลให้ร่างกายสามารถสูบฉีดเลือดเข้าไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้ดีและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณต่อมลูกหมาก
4. IV Drip หรือการให้วิตามินผ่านทางสายน้ำเกลือ มีหลายสูตร ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละท่าน เป็นตัวช่วยเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือดเเละขยายหลอดเลือด รวมถึงสูตรลดความดันเเละเบาหวานทำให้ระบบไหลเวียนดีขึ้น ทำให้มีการเเข็งตัวที่ดีขึ้น อึดทนมากขึ้น
5. Plasma Shot การนำเลือดของตัวเองมาปั่นเพื่อเเยกชั้น เเล้วดึงส่วนพาสมา (ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น Growth Factor)ออกมา แล้วฉีดเข้าไปในบริเวณอวัยวะเพศ ทำให้เกิดการซ่อมเเซมเนื้อเยื่อของเซลล์ที่อ่อนเเอ ให้กลับมามีประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อและหลอดเลือดบริเวณองคชาติให้กลับมาทำงานได้เหมือนเดิม
6. Cell Regeneration สารสกัดจากรก ที่อุดมไปด้วยสารอาหารเข้มข้น เช่น กรดอะมิโน วิตามิน และ Growth Factor ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ชะลอวัยและฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมในร่างกาย ปรับสมดุลทางอารมณ์ สร้างกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังมี ฮอร์โมนเพศ ช่วยรักษาอาการวัยทอง และแก้ไขปัญหาสมรรถภาพทางเพศให้กลับมาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
7. MSC เป็นเซลล์ต้นกำเนิดและ Growth Factor เสมือนแหล่งเซลล์สำรองของร่างกาย สามารถทดแทนเซลล์ที่เสื่อม ส่งเสริมให้มีการสร้างเซลล์ผนังหลอดเลือดและเส้นเลือดใหม่เพิ่ม ทำให้การไหลเวียนเลือดเพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งช่วยให้การหลั่งสารกระตุ้นเซลล์ประสาทให้ทำงานดีขึ้น ส่งผลให้เซลล์กล้ามเนื้อบริเวณอวัยวะเพศทำงานได้ดีขึ้นด้วย
8. Lab Test การเจาะเลือดเพื่อหาสาเหตุและวางเเผนการรักษาในอนาคต เช่นการตรวจระดับฮอร์โมนและน้ำตาล
โดยทั่วไปปัญหานกเขาไม่ขันหรือ ภาวะ ED มักพบในผู้ชายสูงอายุ แต่ผลวิจัยจากหลายแห่งพบว่าในปัจจุบันผู้ชายที่อายุน้อยกำลังประสบปัญหานี้เพิ่มขึ้น โดย 1 ใน 4 ของผู้ชายที่มีปัญหา ED มีอายุต่ำกว่า 40 ปี
ที่พบบ่อยจะเป็นเรื่องของสภาพจิตใจและพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่นการดื่มเหล้า, สูบบุหรี ฯลฯ ซึ่งจะส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้การแข็งตัวของอวัยวะเพศแย่ลงและกระตุ้นให้ผู้ชายมีปัญหาฮอร์โมนเพศต่ำก่อนวัยได้เร็วขึ้น การเกิด ED อายุน้อยจะสัมพันธ์กับโรคหัวใจขาดเลือดที่เกิดเมื่ออายุมากขึ้น
การออกกำลังกายมากเกินไปหรือหักโหมเกินไป ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้น ในขณะที่ฮอร์โมนเพศชายจะทำงานลดลด
ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้แก่ งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงภาวะเครียด เป็นต้น
การซื้อยารักษาและบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายด้วยตัวเอง อาจมีผลข้างเคียงที่อันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหา กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
นอกจากนี้การใช้ยาจะได้ผลเป็นครั้งคราวและเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ ปวดไมเกรน ผิวหนังแดง อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้อาเจียน คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ทัศนวิสัยในการมองเห็นผิดปกติ เช่น ตาพร่า มัว ฯลฯ ซึ่งเมื่อใช้ไปเรื่อยๆจะได้ผลน้อยลง หรืออาจจะไม่ได้ผลเลย นั่นคือการส่งสัญญาณความเสื่อมของร่างกาย
ทางที่ดีเมื่อเกิดภาวะ ED หรือหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แนะนำให้ปรึกษาและให้แพทย์เป็นผู้แนะนำในการรักษา ซึ่งหากได้รับการรักษาตรงจุดก็สามารถทำให้นกเขาของคุณกลับมาขันได้
สาขาที่ให้บริการรักษาโรค ED
- สาขาโรงพยาบาล BBH สุขุมวิท 39
- เฉพาะวันพุธ ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-16.30 น.
- สาขาโรงพยาบาล Princ สุวรรณภูมิ (ใกล้เมกาบางนา)
- เฉพาะวันอังคาร พฤหัสฯ ศุกร์ และเสาร์ ตั้งแต่เวลา 11.00-16.30 น.
**สามารถเช็คและจองคิวรักษาได้ทาง LINE OA: @tsp.antiaging หรือโทร 098 520 9667
โปรแกรม Femme Lift
โดยทั่วไปจะเห็นผลไปในทางที่ดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก แต่ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนขั้นสุด ตามมาตรฐาน อย. ไทย US FDA และ CE ในทวีปยุโรป กำหนด แนะนำให้ทำ 3 ครั้ง โดยสามารถทำได้ทุกๆ 2-4 สัปดาห์ (ไม่ควรเว้นเกิน 1 เดือน)
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนเข้ารับบริการอย่างน้อย 30 นาที
- ดื่มน้ำแต่พอควร ก่อนรับบริการ
- ผู้ที่มีประจำเดือนหรือมีบาดแผลจากการผ่าตัดควรงดเว้นไปก่อน
- ถ้ามีโรคประจำตัวและแพ้ยาต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทราบล่วงหน้า
- ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นก่อนเข้ารับบริการ
ข้อห้ามในการทำ Femme Lift
- ผู้ป่วยที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) และเครื่องช่วยฟัง
- ผู้ที่ตั้งครรภ์
- ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดดำอักเสบแบบมีลิ่มเลือด (เส้นเลือดขอดแบบรุนแรง)
- แผลเปิด หรือ แผลพุพอง (ไฟไหม้, น้ำร้อนลวก)
- คนที่การรับสัมผัสผิดปกติ (การรับสัมผัสผิดปกติแต่กำเนิด, เส้นประสาทถูกทำลาย, อัมพาตครึ่งท่อน หรือ รับประทาน/ได้รับยาที่มีผลทำให้การรับความรู้สึกลดลง)
ข้อควรระวังในการทำ Femme Lift
- มีความผิดปกติของการรับสัมผัส หรือการรับอุณหภูมิเล็กน้อย
- มีไข้หรือมีการติดเชื้อ
การฟื้นฟูช่องคลอดด้วยเครื่อง INDIBA กับโปรแกรม Femme Lift ของเราไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด โดยทั่วไปจะทำให้เกิดความรู้สึกอุ่นๆเท่านั้นตรงบริเวณที่ได้รับการรักษา
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เพื่อขับของเสียที่คั่งค้างสะสมออกไป
- งดมีเพศสัมพันธ์หลังทำ 2-3 วันหลังเข้ารับบริการ หลังจากนั้นสามารถใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
หากมีสัญญาณของการติดเชื้อในช่องคลอดหรือกระเพาะปัสสาวะ หรือมีเลือดออกสีแดงสด (ที่ไม่ใช่ประจำเดือน) ผ่านทางช่องตลอด ควรนัดแพทย์อีกครั้งเพื่อเข้ารับการประเมินอาการที่สาขาของเรา
ไม่เหมือนกัน เนื่องจากเลเซอร์ใช้แสงเพื่อการรักษาบริเวณผิวหนัง โดยหลักฐานจากงานวิจัยยืนยันว่าการรักษาด้วยเลเซอร์ไม่สามารถเจาะลึกได้เกิน 15 มม. ซึ่งหมายความว่าการรักษาด้วยเลเซอร์เป็นการรักษาที่ผิวเผินและไม่สามารถลงลึกได้
และเนื่องจาก INDIBA เป็นการรักษาด้วยกระแสแม่เหล็กไฟฟ้า จึงสามารถเจาะจงจุดที่ต้องการรักษาได้ถึงเนื้อเยื่อโดยที่ชั้นผิวหนังจะไม่ถูกทำลาย (ไม่เหมือนการทำเลเซอร์)
ลูกค้าสามารถเข้ารับบริการโปรแกรม Femme Lift ได้แม้ว่ากำลังมีประจำเดือน โดยไม่มีผลกระทบในระหว่างทำหรือผลลัพท์แต่อย่างใด แต่ส่วนมากมักไม่นิยมทำเนื่องจากอาจมีความรู้สึกอึดอัด เคอะเขิน หรือไม่สบายตัวระหว่างการมีประจำเดือน
การรักษาด้วยเครื่อง INDIBA นั้นปลอดภัยเนื่องจากไม่มีผลต่อรอบระดูและวัฏจักรของฮอร์โมนโดยตรง แต่เนื่องจากการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้นจากการกระแสแม่เหล็กไฟฟ้า อาจทำให้เมนส์มามากขึ้นในวันที่ได้รับการรักษา
โปรแกรม IV Drip
IV Drip by TSP คือการให้วิตามิน กรดอะมิโน เกลือแร่ แร่ธาตุ หรือสารต้านอนุมูลอิสระทางหลอดเลือดดำผ่านสายน้ำเกลือ (IV Drip หรือ IV Infusion) เพื่อให้ร่างกายนำวิตามินไปใช้ในกระแสเลือดได้ทันที 100% โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยและดูดซึมที่ลำไส้เหมือนการรับประทานอาหารเสริมประเภทวิตามินโดยทั่วไป เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานให้ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่สมดุล แข็งแรง
เนื่องจากวิตามินของ TSP มีหลายสูตร จึงจำเป็นต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นผู้กำหนดสูตรให้เหมาะสมเฉพาะบุคคล ทั้งนี้ก่อนการดริปวิตามิน แพทย์จะต้องทำการสอบถามประวัติและตรวจสุขภาพเพื่อวินิจฉัยปัญหาด้านสุขภาพ รวมถึงผลลัพธ์ที่คนไข้ต้องการ
จำนวนครั้งที่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนนั้น ประมาณ 3 – 5 ครั้ง ขึ้นไป โดยควรห่างกันประมาณสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เนื่องจากปัญหาสุขภาพ หรือความสามารถในการดูดซึมสารต่างๆ และวิตามินที่แตกต่างกัน
ขึ้นกับความถี่ในการดริปวิตามิน โดยในท่านที่รับบริการหลายครั้งกว่า จะได้รับวิตามินมากกว่า ผลจะอยู่ได้นานขึ้น และเมื่อจบคอร์สแล้วควรมีการ maintain เข้ามาดริปวิตามินซ้ำในระยะเวลาที่ห่างขึ้น เพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนานขึ้น
การให้วิตามินผ่านทางเส้นเลือด ก็เหมือนกับการฉีดยาเข้าเส้นทั่วๆไป คืออาจมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเกิดขึ้นได้ แต่ความเสี่ยงเหล่านี้เราควบคุมป้องกันได้ด้วยเทคนิคการปลอดเชื้อและความสะอาด เราจึงต้องเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ และสถานพยาบาลต้องสะอาด ได้มาตรฐาน ในส่วนของปริมาณวิตามินและแร่ธาตุควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งหมอที่ชำนาญ มีประสบการณ์จะช่วยคำนวณให้ได้สัดส่วนที่ตรงกับปัญหา สภาพร่างกายและความต้องการของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคไตและคนที่แพ้ยาจะต้องได้รับการการดูแลเป็นพิเศษ และควรต้องแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง
ขั้นตอนการให้วิตามินผิว สะดวกและไม่ยุ่งยาก โดยแพทย์จะตรวจร่างกายและให้คำแนะนำเพื่อเลือกวิตามินที่เหมาะสมกับคนไข้เป็นรายบุคคล จากนั้นก็จะทำการผสมตัวยาด้วยเทคนิคปลอดเชื้อ เมื่อเตรียมวิตามินเรียบร้อยแล้ว พยาบาลก็จะทำการเปิดเส้น
หลังจากเปิดเส้นแล้วพยาบาลจะต่อสายน้ำเกลือเข้าเส้นและปล่อยตัวยา ลักษณะเหมือนกับการให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล โดยระหว่างการให้น้ำเกลือคนไข้สามารถนั่งทำกิจกรรมที่ชอบได้ตามสบาย ไม่ว่าจะเป็นการ นอนพักผ่อน เล่นมือถือ ฟังเพลง ค่าโทรศัพท์ ดูภาพยนตร์หรือยูทูปผ่านทางมือถือหรือไอแพด ระหว่างนั้นผู้ช่วยหรือพยาบาลจะคอยเช็คความเรียบร้อยให้จนตลอดการให้วิตามินเสร็จสิ้น เมื่อให้วิตามินจนหมดแล้ว พยาบาลจะเข้ามาทำการถอดสายน้ำเกลือออก แล้ววัดความดันหลังทำหัตถการ
- สตรีที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
- เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี